ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดในรูปแบบปลอกคอ ได้มีความพยายามปรับหาวิธีเพื่อให้ผู้ใช้มีความสะดวกมากขึ้น จากเดิมที่ใช้วิธีอาบ จุ่ม หรือชโลม หากท่านใดมีสัตว์เลี้ยงหลายๆ ตัววิธีที่กล่าวมาย่อมเหนื่อยและยุ่งยาก และโดยปรกติที่สุนัขและแมวต้องใส่ปลอกคออยู่แล้ว จึงมีการประดิษฐ์ปลอกคอที่มีสารฆ่าแมลงเพื่อกำจัดเห็บหมัดด้วย สารต่างๆ มีคุณสมบัติและความปลอดภัยแตกต่างกัน ในการเลือกใช้ให้เลือกแบบที่ตรงต่อความต้องการและเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง เช่น ปลอกคอสำหรับแมว หรือปลอกคอสำหรับสุนัข ทีนี้มาดูกันว่ามีสารใดเป็นส่วนประกอบในการออกฤทธิ์กำจัดเห็บหมัดบ้าง
ปลอกคอที่มีสารอะมิทราส เป็นสารออกฤทธิ์ให้ผลกำจัดเห็บหมัด สารอะมิทราส (Amitraz) เป็นสารฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์รบกวนการส่งสัญญาณประสาทส่วนกลางของแมลง เป็นสารฆ่าแมลงที่ถูกนำมาใช้ในวงการสัตวแพทย์โดยเฉพาะในสัตว์ปศุสัตว์ รูปแบบการใช้ มีทั้งแบบผสมกับน้ำ และเป็นปลอกคอที่บรรจุสารเคมีออกฤทธิ์ ขั้นตอนการใช้ สารตัวนี้ใช้ในรูปการผสมน้ำ ใช้อาบ หรือจุ่มในสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน เพราะมีสรรพคุณในการฆ่าทำลายตัวไรขี้เรื้อนเปียกในรูขุมขน และยังสามารถฆ่าเห็บได้ สำหรับในรูปแบบของปลอกคอสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้น ตัวสารเคมีจะค่อยๆ ซึมและกระจายตัวออกมาจากปลอกคอ คำเตือน สารตัวนี้มีฤทธิ์ยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดส ฉะนั้นเจ้าของสัตว์และผู้ใช้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานต้องระวังในการสัมผัสปลอกคอนี้ เพราะอย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าสารที่ออกฤทธิ์มีสรรพคุณในการยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดสในร่างกาย มันย่อมส่งผลให้เกิดการยับยั้งการหลั่งของอินซูลินในกระแสเลือดด้วย เป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มสูงกว่าปรกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงต้องสวมถุงมือทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้
นอกจากนี้ผู้ป่วยด้วยโรคที่ต้องกินยารักษาโรคซึมเศร้า โรคพาร์กินสัน โรคไมเกรน ต้องระวังการจับต้องสัมผัสสารตัวนี้เช่นกัน เพราะถ้าท่านกำลังกินยารักษาโรคดังกล่าวแล้วไปรับสัมผัสสารเคมีนี้เข้าไปในร่างกาย จะส่งผลให้เกิดส่งผลเสริมฤทธิ์กัน เนื่องจากยาดังกล่าวมีสรรพคุณยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดส เช่นกัน
การใช้กับสุนัขโดยเฉพาะในตัวที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือกำลังให้ยารักษาโรคซึมเศร้า พึงหลีกเลี่ยงการใส่ปลอกคอที่มีสารตัวนี้ และขณะที่กำลังสวมปลอกคอให้สุนัขต้องระวังอย่าให้เค้าเลียหรือกินเข้าไป ยิ่งในรายที่มีสุนัขหลายๆ ตัว และใส่ปลอกคอให้พร้อมๆ กัน พึงระวังให้มากเพราะสุนัขมักชอบทำพฤติกรรมดังนี้ คือ กัดหรือแทะปลอกคอของสุนัขอีกตัว และไม่ควรใส่ให้สุนัขตัวที่ตั้งท้องและเลี้ยงลูก การสวมปลอกคอไม่ควรสวมให้แน่นจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ ควรสวมให้หลวมสักเล็กน้อย
ปลอกคอที่มีเตตราคลอร์วินพอส ผสมเมโทรพรีน ตัวแรกสารออกฤทธิ์ที่ฆ่าทำลายเห็บหมัด เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มออร์แกน โนฟอสเฟต และอีกตัวคือ เมโทรพรีนเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง สารเคมีสองตัวนี้อาจมีใส่ในปลอกคอเพียงตัวเดียว คือ เตตราคลอร์วินฟอส หรือใส่ทั้งสองชนิดในปลอกคออันเดียวกัน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากตัวเตตราคลอร์วินฟอสนั้นมีฤทธิ์ในการฆ่าทำลายหมัดเห็บได้เลย เพราะสารในกลุ่มออร์แกนโนฟอสเฟตจะทำให้เกิดการยับยั้งสารอะเซทติลคลอลีนเอสเตอร์เรส เมื่อไม่มีสารดังกล่าวที่ปลายประสาทจะทำให้เกิดการกระตุ้นกล้ามเนื้อต่อเนื่อง ไม่ได้พักจนทำให้เกิดอาการเป็นอัมพาต และแมลงตายในที่สุด ส่วนสารเมโทรพรีนตามที่กล่าวไว้ ว่าไม่ได้ออกฤทธิ์ฆ่าแมลงโดยตรงแต่มันมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาร่างกายของแมลง เพราะสารดังกล่าวทำให้เกิดการรบกวนการพัฒนาจากไข่เป็นตัวอ่อนและจากตัวดักแด้เป็นตัวเต็มวัย เพราะฉะนั้นสารเตตราคลอวินฟอสจะออกฤทธิ์ฆ่าแมลงตัวแก่ได้ทั้งเห็บและหมัด ในขณะที่ เมโทรพรีนจะออกฤทธิ์ทำลายไข่และตัวดักแด้ของหมัดได้ดี ขั้นตอนการใช้ ต้องเลือกดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ระบุว่าใช้ได้กับสุนัขหรือแมว เพราะบางยี่ห้อมีแบบที่ใช้แมว บางยี่ห้อใช้ได้ทั้งสุนัขและแมว พิจารณาดูให้ดี ตามปรกติจะมีคำแนะนำการใช้ระบุไว้หลังกล่องของผลิตภัณฑ์
เรื่องของอายุสัตว์ที่อนุญาตให้ใช้ คือ มีอายุมากกว่า 6-12 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นเรื่องซึ่งผู้ใช้ต้องอ่านให้ละเอียดและเลือกใช้ให้ตรงตามคำแนะนำซึ่งได้ระบุไว้ นอกจากนี้ไม่ควรใส่ให้แม่หมาตั้งท้องและตัวที่ให้นมลูก เวลาสวมปลอกคออย่ารัดแน่นจนเกินไปนัก ให้สวมให้หลวมสักนิดครับ
ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดในรูปแบบพ่นลงไปบนตัวสัตว์ ถือว่าเป็นอีกพัฒนาการหนึ่งของผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดเช่นกันครับ เพราะเทคนิคการพ่นสามารถทำได้ง่ายใช้ได้สะดวก และเรียนรู้ได้ไม่ยาก เจ้าของสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงได้เอง ลองมาดูกันครับว่ามีผลิตภัณฑ์พ่นยี่ห้อใดบ้างครับ
ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดแบบพ่นที่มีสารไฟโปรนิลเป็นสารออกฤทธิ์ ในบ้านเรามียี่ห้อเดียวนะครับ ชื่อผลิตภัณฑ์คือ ฟร้อนท์ไลน์ สารไฟโปรนิลนีถือว่าเป็นสารฆ่าแมลงที่ได้พัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเพราะมันออกฤทธิ์ยับยั้งสารสื่อประสาทของแมลง โดยยับยั้งสาร GABA ที่ receptor ในระบบประสาทส่วนกลางของแมลง เมื่อยับยั้งส่วนดังกล่าวทำให้แมลงเกิดอาการเป็นอัมพาต และตายในที่สุด สำหรับมนุษย์สาร GABA มีในสมองเท่านั้น ซึ่งไฟโปรนิลไม่สามารถซึมผ่านไปยังสมองของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วนนมได้ อันตรายจากการออกฤทธิ์ยับยั้ง GABA ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจึงไม่เกิดขึ้น รูปแบบการใช้ ใช้พ่น เนื่องจากสารไฟโปรนิลเป็นสารที่ละลายได้ดีในไขมัน เพราะเหตุนี้เมื่อเราพ่นลงไปบนผิวหนังสัตว์ตัวสารจะซึมลงไปใต้ผิวหนัง และกระจายไปตามผิวหนังทางไขมัน จากนั้นค่อยๆ ปลดปล่อยออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่มีทั่วร่างกายสุนัขและแมว ทำให้สารตัวนี้มีระยะเวลาการออกฤทธิ์นานและยังคงการออกฤทธิ์ได้ แม้ว่าจะผ่านการอาบน้ำมา ซึ่งระยะเวลาที่ออกฤทธิ์นาน 30 วัน ขั้นตอนการใช้ พ่นลงบนตัวสัตว์และพ่นให้สัมผัสกับผิวหนัง โดยต้องเปิดขนชองสัตว์ขึ้นขณะพ่นเพื่อที่ตัวสารเคมีจะได้สัมผัสลงบนผิวหนัง จากนั้นให้ลูบย้อนขน ในการใช้จำเป็นต้องทราบน้ำหนักตัวสัตว์ก่อนครับเพื่อจะได้ทราบว่าต้องพ่นกันกี่ครั้ง มีสูตรดังนี้ ในกรณีใช้ฟร้อนท์ไลน์ขนาด 100 มิลลิลิตร ให้นำน้ำหนักตัวสัตว์คูณด้วยหก จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนครั้งที่ต้องพ่นออกมา ถ้าเลือกใช้ฟร้อนท์ไลน์ขนาด 250 มิลลิลิตร ให้นำน้ำหนักตัวสัตว์แล้วคูณด้วยสอง จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนครั้งออกมาเช่นกัน
ปลอกคอที่มีสารอะมิทราส เป็นสารออกฤทธิ์ให้ผลกำจัดเห็บหมัด สารอะมิทราส (Amitraz) เป็นสารฆ่าแมลงที่ออกฤทธิ์รบกวนการส่งสัญญาณประสาทส่วนกลางของแมลง เป็นสารฆ่าแมลงที่ถูกนำมาใช้ในวงการสัตวแพทย์โดยเฉพาะในสัตว์ปศุสัตว์ รูปแบบการใช้ มีทั้งแบบผสมกับน้ำ และเป็นปลอกคอที่บรรจุสารเคมีออกฤทธิ์ ขั้นตอนการใช้ สารตัวนี้ใช้ในรูปการผสมน้ำ ใช้อาบ หรือจุ่มในสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน เพราะมีสรรพคุณในการฆ่าทำลายตัวไรขี้เรื้อนเปียกในรูขุมขน และยังสามารถฆ่าเห็บได้ สำหรับในรูปแบบของปลอกคอสำหรับสัตว์เลี้ยงนั้น ตัวสารเคมีจะค่อยๆ ซึมและกระจายตัวออกมาจากปลอกคอ คำเตือน สารตัวนี้มีฤทธิ์ยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดส ฉะนั้นเจ้าของสัตว์และผู้ใช้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานต้องระวังในการสัมผัสปลอกคอนี้ เพราะอย่างที่กล่าวในข้างต้นว่าสารที่ออกฤทธิ์มีสรรพคุณในการยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดสในร่างกาย มันย่อมส่งผลให้เกิดการยับยั้งการหลั่งของอินซูลินในกระแสเลือดด้วย เป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดเพิ่มสูงกว่าปรกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงต้องสวมถุงมือทุกครั้งก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้
นอกจากนี้ผู้ป่วยด้วยโรคที่ต้องกินยารักษาโรคซึมเศร้า โรคพาร์กินสัน โรคไมเกรน ต้องระวังการจับต้องสัมผัสสารตัวนี้เช่นกัน เพราะถ้าท่านกำลังกินยารักษาโรคดังกล่าวแล้วไปรับสัมผัสสารเคมีนี้เข้าไปในร่างกาย จะส่งผลให้เกิดส่งผลเสริมฤทธิ์กัน เนื่องจากยาดังกล่าวมีสรรพคุณยับยั้งสารโมโนเอมีน ออกซิเดส เช่นกัน
การใช้กับสุนัขโดยเฉพาะในตัวที่ป่วยเป็นเบาหวาน หรือกำลังให้ยารักษาโรคซึมเศร้า พึงหลีกเลี่ยงการใส่ปลอกคอที่มีสารตัวนี้ และขณะที่กำลังสวมปลอกคอให้สุนัขต้องระวังอย่าให้เค้าเลียหรือกินเข้าไป ยิ่งในรายที่มีสุนัขหลายๆ ตัว และใส่ปลอกคอให้พร้อมๆ กัน พึงระวังให้มากเพราะสุนัขมักชอบทำพฤติกรรมดังนี้ คือ กัดหรือแทะปลอกคอของสุนัขอีกตัว และไม่ควรใส่ให้สุนัขตัวที่ตั้งท้องและเลี้ยงลูก การสวมปลอกคอไม่ควรสวมให้แน่นจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนังได้ ควรสวมให้หลวมสักเล็กน้อย
ปลอกคอที่มีเตตราคลอร์วินพอส ผสมเมโทรพรีน ตัวแรกสารออกฤทธิ์ที่ฆ่าทำลายเห็บหมัด เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มออร์แกน โนฟอสเฟต และอีกตัวคือ เมโทรพรีนเป็นสารที่อยู่ในกลุ่มยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง สารเคมีสองตัวนี้อาจมีใส่ในปลอกคอเพียงตัวเดียว คือ เตตราคลอร์วินฟอส หรือใส่ทั้งสองชนิดในปลอกคออันเดียวกัน ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากตัวเตตราคลอร์วินฟอสนั้นมีฤทธิ์ในการฆ่าทำลายหมัดเห็บได้เลย เพราะสารในกลุ่มออร์แกนโนฟอสเฟตจะทำให้เกิดการยับยั้งสารอะเซทติลคลอลีนเอสเตอร์เรส เมื่อไม่มีสารดังกล่าวที่ปลายประสาทจะทำให้เกิดการกระตุ้นกล้ามเนื้อต่อเนื่อง ไม่ได้พักจนทำให้เกิดอาการเป็นอัมพาต และแมลงตายในที่สุด ส่วนสารเมโทรพรีนตามที่กล่าวไว้ ว่าไม่ได้ออกฤทธิ์ฆ่าแมลงโดยตรงแต่มันมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตและพัฒนาร่างกายของแมลง เพราะสารดังกล่าวทำให้เกิดการรบกวนการพัฒนาจากไข่เป็นตัวอ่อนและจากตัวดักแด้เป็นตัวเต็มวัย เพราะฉะนั้นสารเตตราคลอวินฟอสจะออกฤทธิ์ฆ่าแมลงตัวแก่ได้ทั้งเห็บและหมัด ในขณะที่ เมโทรพรีนจะออกฤทธิ์ทำลายไข่และตัวดักแด้ของหมัดได้ดี ขั้นตอนการใช้ ต้องเลือกดูว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ระบุว่าใช้ได้กับสุนัขหรือแมว เพราะบางยี่ห้อมีแบบที่ใช้แมว บางยี่ห้อใช้ได้ทั้งสุนัขและแมว พิจารณาดูให้ดี ตามปรกติจะมีคำแนะนำการใช้ระบุไว้หลังกล่องของผลิตภัณฑ์
เรื่องของอายุสัตว์ที่อนุญาตให้ใช้ คือ มีอายุมากกว่า 6-12 สัปดาห์ขึ้นไป เป็นเรื่องซึ่งผู้ใช้ต้องอ่านให้ละเอียดและเลือกใช้ให้ตรงตามคำแนะนำซึ่งได้ระบุไว้ นอกจากนี้ไม่ควรใส่ให้แม่หมาตั้งท้องและตัวที่ให้นมลูก เวลาสวมปลอกคออย่ารัดแน่นจนเกินไปนัก ให้สวมให้หลวมสักนิดครับ
ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดในรูปแบบพ่นลงไปบนตัวสัตว์ ถือว่าเป็นอีกพัฒนาการหนึ่งของผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดเช่นกันครับ เพราะเทคนิคการพ่นสามารถทำได้ง่ายใช้ได้สะดวก และเรียนรู้ได้ไม่ยาก เจ้าของสามารถทำให้สัตว์เลี้ยงได้เอง ลองมาดูกันครับว่ามีผลิตภัณฑ์พ่นยี่ห้อใดบ้างครับ
ผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บหมัดแบบพ่นที่มีสารไฟโปรนิลเป็นสารออกฤทธิ์ ในบ้านเรามียี่ห้อเดียวนะครับ ชื่อผลิตภัณฑ์คือ ฟร้อนท์ไลน์ สารไฟโปรนิลนีถือว่าเป็นสารฆ่าแมลงที่ได้พัฒนาขึ้นมาอีกระดับหนึ่งเพราะมันออกฤทธิ์ยับยั้งสารสื่อประสาทของแมลง โดยยับยั้งสาร GABA ที่ receptor ในระบบประสาทส่วนกลางของแมลง เมื่อยับยั้งส่วนดังกล่าวทำให้แมลงเกิดอาการเป็นอัมพาต และตายในที่สุด สำหรับมนุษย์สาร GABA มีในสมองเท่านั้น ซึ่งไฟโปรนิลไม่สามารถซึมผ่านไปยังสมองของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วนนมได้ อันตรายจากการออกฤทธิ์ยับยั้ง GABA ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจึงไม่เกิดขึ้น รูปแบบการใช้ ใช้พ่น เนื่องจากสารไฟโปรนิลเป็นสารที่ละลายได้ดีในไขมัน เพราะเหตุนี้เมื่อเราพ่นลงไปบนผิวหนังสัตว์ตัวสารจะซึมลงไปใต้ผิวหนัง และกระจายไปตามผิวหนังทางไขมัน จากนั้นค่อยๆ ปลดปล่อยออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังที่มีทั่วร่างกายสุนัขและแมว ทำให้สารตัวนี้มีระยะเวลาการออกฤทธิ์นานและยังคงการออกฤทธิ์ได้ แม้ว่าจะผ่านการอาบน้ำมา ซึ่งระยะเวลาที่ออกฤทธิ์นาน 30 วัน ขั้นตอนการใช้ พ่นลงบนตัวสัตว์และพ่นให้สัมผัสกับผิวหนัง โดยต้องเปิดขนชองสัตว์ขึ้นขณะพ่นเพื่อที่ตัวสารเคมีจะได้สัมผัสลงบนผิวหนัง จากนั้นให้ลูบย้อนขน ในการใช้จำเป็นต้องทราบน้ำหนักตัวสัตว์ก่อนครับเพื่อจะได้ทราบว่าต้องพ่นกันกี่ครั้ง มีสูตรดังนี้ ในกรณีใช้ฟร้อนท์ไลน์ขนาด 100 มิลลิลิตร ให้นำน้ำหนักตัวสัตว์คูณด้วยหก จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนครั้งที่ต้องพ่นออกมา ถ้าเลือกใช้ฟร้อนท์ไลน์ขนาด 250 มิลลิลิตร ให้นำน้ำหนักตัวสัตว์แล้วคูณด้วยสอง จะได้ผลลัพธ์เป็นจำนวนครั้งออกมาเช่นกัน
ควรสวมถุงมือก่อนใช้ทุกครั้ง การพ่นควรพ่นห่างจากตัวสัตว์ประมาณ 1 ฟุต และก่อนใช้สารตัวนี้ต้องไม่อาบน้ำให้สัตว์นาน 2 วัน และต้องเว้นไม่อาบน้ำให้สัตว์ 2 วันหลังพ่น หลังจากนั้นจึงสามารถอาบน้ำให้สัตว์ได้ คำเตือน ควรพ่นในที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรพ่นใกล้เปลวไฟ และการพ่นบริเวณใบหน้าสัตว์ผู้ใช้ควรพ่นลงบนถุงมือก่อน แล้วจึงลูบย้อนขนให้ทั่วบริเวณใบหน้าและหัว จากนั้นปล่อยให้ตัวสัตว์แห้งเอง สารไฟโปรนิลชนิดพ่นสามารถใช้ในสัตว์ที่ตั้งท้อง เลี้ยงลูกให้นมลูกได้และใช้ในสัตว์ที่มีอายุได้ตั้งแต่อายุ 2 วันเป็นต้นไป ในสัตว์แก่ก็สามารถใช้พ่นได้เช่นกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น